โฆษณาสินค้า ให้น่าเชื่อถือ ทำได้ง่าย ๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอน

โฆษณาเกินเชื่อ โฆษณาเกินจริง สินค้าตัวนี้จะใช้ได้จริงหรอ หน้าตาไม่น่าใช้เลย คำเหล่านี้เราอาจจะได้เคยยินผ่านหูมาเป็นจำนวนมาก หรือ บางครั้งตัวเราอาจจะเป็นคนพูดคำเหล่านั้นออกมาเอง ซึ่งส่วนมาก โฆษณาสินค้าที่เรามักมองข้าม สังเกตง่าย ๆ คือ มักจะเต็มไปด้วยข้อความยาวเหยียดหรือการจัดวางที่มั่ว แบบไม่มีดีไซน์ หรือ ไม่มีลิ้งค์ไปยังหน้าร้านให้สามารถตรวจสอบได้ วันนี้เราจึงอยากแนะนำขั้นตอนง่าย ๆ ในการโฆษณาสินค้า ให้มีความน่าเชื่อมั่นมากขึ้น

online advertising

  1. เปิดเว็บไซต์ หรือสร้าง Fan page ใน Facebook หรือในช่องทางอื่น ๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งจะช่วยเป็นสื่อกลางให้กับคนที่สนใจ ได้เข้ามาเลือกดูสินค้า เป็นการสร้างการตลาดแบบออนไลน์ เป็นช่องทางการโฆษณาสินค้า ที่ทำได้ง่าย โดยต้องคำนึงถึงการออกแบบหน้าเว็บไซต์ด้วย กำหนดโทนและทิศทางของเวบไซต์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
  1. ชื่อร้าน ต้องตั้งให้เด่น อาจใช้การเล่นคำพ้องเสียง พ้องรูป หรือ คำเปรียบเทียบ ซึ่งชื่ออาจระบุสินค้าลงไปด้วยได้ เพื่อเป็นการโฆษณาสินค้าไปในตัว แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเลย คือ การยัดทุกอย่างลงไปในชื่อร้าน จนทำให้ชื่อร้านยาวจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าจำไม่ได้
  1. ข้อมูลต่าง ๆ ควรระบุอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ตั้ง ราคา และช่องทางการติดต่อ รวมไปถึง รูปภาพสินค้า อาจทำเป็นภาพ Cover หรือ ภาพปักหมุด ถ้ามีหน้าร้าน ควรถ่ายภาพมาแสดงโชว์ เพื่อเป็นการระบุว่าคุณมีตัวตนจริง สามารถตามไปได้ที่ที่ภาพแสดงได้จริง ซึ่งภาพถ่ายก็ควร หาจุดเด่น หรือแลนด์มาร์ค ที่ใกล้ร้าน เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางไปหน้าร้านของลูกค้าในอนาคต
  1. กำหนดราคาสินค้า เรื่องนี้อาจขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของแบรนด์เอง แต่ราคาที่ดี ควรไม่มากไปหรือต่ำไป หากอยากสร้างความเชื่อมั่นในการโฆษณาสินค้า ตั้งราคาให้ดูจากคู่แข่งในโลกออนไลน์ของเรา แต่ถ้าไม่มีคู่แข่ง ก็สามารถตั้งราคาได้อยากอิสระ
  1. กำหนดเวลาในการจัดส่ง และพร้อมตอบคำถาม การขายของในโลกออนไลน์ นอกจากการโฆษณาสินค้า เจ้าของสินค้า บริการ ก็ต้องเตรียมพร้อมในการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลสินค้า หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม ยิ่งสามารถตอบได้เร็วเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะยิ่งรู้สึกประทับใจ การส่งของก็ควรตรงต่อเวลา หมั่นแจ้งเลขแทรค ติดตามพัสดุ รีวิวการส่งและรับ เพื่อซื้อใจ และแสดงให้เห็นว่าร้านของคุณส่งจริง

เพียงไม่กี่ขั้นตอน การโฆษณาสินค้า ของคุณก็จะน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอในการหมั่นโพส หมั่นเชค หรืออัพเดตเทรนด์ต่าง ๆ ให้กับสินค้า หรือหน้าเว็บไซต์ของคุณ ก็ยังคงมีอีกหนึ่งช่องทางง่าย ๆ คือ การส่งต่อให้ผู้เชียวชาญได้เข้าไปเป็นทีมหนึ่งในการพัฒนาการโฆษณาสินค้า เพื่อผลตอบแทนที่เกินคุ้ม

เทคนิคที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้จักคุณบนโลกออนไลน์

การจะทำให้ลูกค้ารู้จักเราบนโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงเราจะมีธุรกิจก้จริงแต่ถ้าเราไม่มีการโปรโมท โอกาสที่ลูกค้าจะเข้าถึงบริการของเราก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

1. เมื่อสร้างรายการคำค้นหา ให้สมมติว่าตัวเองเป็นลูกค้า : การพิมพ์คำค้นหาอะไรบน Google ควรหลีกเลี่ยงคำค้นหาทั่วไป หรือคำค้นหาที่มีขอบเขตกว้างเกินไป ควรใช้วลี 2-3 คำ สำหรับคำค้นหาที่เฉพาะเจาะจง และควรเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโฆษณาด้วยการระบุคำค้นหาที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น คำศัพท์ที่เป็นภาษาพูด คำพหูพจน์ ตัวสะกดที่คล้ายคลึงกัน และคำที่มีความหมายเหมือนกัน ขจัดคำศัพท์แบบกว้างๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจำหน่ายสินค้าจำพวกกระเป๋าเดินทาง ก็ไม่ควรใช้คำทั่วไปอย่างเช่น กระเป๋า เพราะโฆษณาของคุณอาจปรากฏในหน้าผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ กระเป๋าสตางค์ และ กระเป๋าสะพาย

2. เขียนข้อความโฆษณาที่เชิญชวนให้คลิก : โดยระบุข้อความสำคัญอย่างตรงประเด็น เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกที่โฆษณา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ควรใช้คำค้นหาที่ส่วนหัวข้อและข้อความโฆษณา โดยพิมพ์อักษรตัวหนา และผู้ใช้ก็จะทราบว่าโฆษณาของคุณเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขากำลังค้นหา คุณควรกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการทันทีโดยใช้คำกริยาและวลีที่เน้นการกระทำ เช่น “อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม” “สั่งซื้อทันที” หรือ “ดาวน์โหลดแคตตาล็อกฟรี”

3. ใช้คำค้นหาที่ไม่ต้องการ : คำค้นหาที่ไม่ต้องการ (Negative Keyword) คือส่วนประกอบสำคัญของรายการคำค้นหา ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นโฆษณาของคุณ คำค้นหาที่ไม่ต้องการจะป้องกันไม่ให้โฆษณาของคุณปรากฏบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาที่มีคำศัพท์เหล่านั้น คำค้นหาที่ไม่ต้องการจะช่วยคัดกรองแทรฟฟิกที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป

4. ใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเว็บฟรี: เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเว็บจะช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำว่ามีใครกำลังทำอะไรบนเว็บไซต์ของคุณ โดยจะตรวจสอบติดตามผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมไปถึงการอ้างอิง ประสิทธิภาพของ เสิร์ชเอนจิ้น โปรโมชั่นทางอีเมลล์ และอื่นๆ

5. ตรวจสอบทรัพยากรออนไลน์: โปรแกรมโฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่มีศูนย์ทรัพยากรที่ประกอบด้วยการสาธิต บทความ และวิดีโอที่ เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ก็มักจะมีประสบการณ์และข้อสงสัยคล้ายกับคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถค้นหาคำตอบสำหรับคำถามทั่วไปได้จากศูนย์วิธีใช้